ใครจะเชื่อว่าเหรียญที่เราใช้จ่ายหมุนเวียนกันอยู่ทุกวันนี้ บางเหรียญที่เราเผลอหยิบจ่ายพ่อค้าแม่ค้าไปนั้น อาจจะมีมูลค่าสูงถึงหลักหมื่น หลักแสนบาทก็เป็นได้ วันนี้ผมขออนุญาตหยิบยกบทความเรื่อง “เหรียญ ร.9 สิบอันดับยอดนิยม” มาให้ทุกท่านได้ศึกษา เพื่อที่จะได้ไม่เสียโอกาสปล่อยให้เงินแสนหลุดลอยไปครับ
เหรียญ ร.9 สิบอันดับยอดนิยม
เหรียญหายากอันดับ 1 เหรียญกษาปณ์นิกเกิลเคลือบไส้ทองแดงราคา 5 บาท พ.ศ.2525 ด้านหน้าพระเศียรเล็ก
เหรียญนี้คงต้องคุยกันนานเพราะมันเป็นตำนานจริงๆ มีเพียงหนึ่งเดียวและที่เห็นมามีเพียงเหรียญเดียวยังไม่เคยเห็นเหรียญที่สองเลยครับ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2539 ก่อนฟองสบู่แตกเล็กน้อยตอนนั้นถือเป็นยุคทองของเหรียญกษาปณ์เพราะมีคนเล่นหากันแบบไม่เกรงใจคนจน คงเป็นเพราะเศรษฐกิจดีขนาดไม่มีเงินหรือเงินไม่พอยังสามารถแปะเอาไว้ก่อน เอาของมาก่อนแล้วค่อยหาเงินไปใช้ให้ทีหลังทำตัวเป็นเศรษฐีกันถ้วนหน้าผมเองไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็อดที่จะตามขบวนกับเขาไม่ได้กลัวจะตกรถไฟ ขณะที่ผมกำลังก้มๆเงยๆมองหาเหรียญอยู่แถวหน้าวัดพระแก้วก็มีมือมาสะกิดทำให้ผมหันไป “พี่ๆผมมีเหรียญมาให้ดู”ผมหันไปก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลเป็นนักวิ่งเหรียญ(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีประมาณว่าเป็นคนหาเหรียญแล้วคอยส่งต่อให้พ่อค้าอีกที) เจ้าประจำที่คุ้นเคยกันอยู่ “เหรียญอะไร” ผมถามอย่างอารมณ์ดี “เหรียญหายากครับ ผมว่าพี่ต้องชอบ” ผมไม่รอช้าเลี่ยงเดินออกมาโดยมีเจ้านักวิ่งเหรียญตามมาติดๆ “ไหนขอดูหน่อยว่าเจ๋งจริงหรือเปล่า”เจ้านักวิ่งเหรียญเปิดกระเป๋าย่ามบรรจงหยิบเหรียญออกมายื่นให้“เจ๋งอยู่แล้วพี่ ดูซะก่อน” ผมรับเหรียญมาแล้วมองดูพลิกไปพลิกมาก็ยังไม่แน่ใจเลยควักกล้องออกมาส่องอยู่สักครู่แล้วก็ถามว่า “เท่าไหร่” เจ้าเด็กวิ่งเหรียญตอบแบบไม่เกรงใจผม “ห้าหมื่นครับพี่”ผมนิ่งไปพักใหญ่เพราะเจอของหนักอีกแล้ว “มีเหรียญเดียวหรือ”ผมถามเพื่อหยั่งเชิง “โอย..พี่มีเหรียญเดียวจะไปหาที่ไหนตั้งหลายๆเหรียญ นี่มัน พ.ศ. 39 แล้วตั้ง 14 ปีมาแล้วนะยังไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน ผมได้มาจากคนคัดเหรียญของกองกษาปณ์ อ้ายคนคัดเหรียญมันยังบอกว่ามันเองก็ไม่เคยเห็นเหรียญแบบนี้มาก่อน” ผมเองก็มั่นใจลึกๆว่าเจ้าเด็กวิ่งเหรียญน่าจะพูดจริงเพราะเวลาผ่านมานานแล้วผมเองก็ยังไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีเหรียญแบบนี้ ที่เคยเห็นบ่อยก็จะเป็นเหรียญราคา 1บาทแบบพระเศียรเล็กแต่ราคา 5 บาทแบบพระเศียรเล็กยังไม่เคยเจอเลย “ไม่ลดหน่อยหรือ เช้าๆอย่างนี้” เจ้านักวิ่งเหรียญตอบแบบรู้ใจว่าผมสนใจสินค้า “อย่าเลยพี่แบ่งๆกัน พี่ก็รู้ว่าผมให้พี่ดูเป็นคนแรกๆทุกครั้งเลย”เจอไม้นี้ผมเลยพูดไม่ออกเดินไปกดเงินให้แล้วเดินตัวเบาออกมา ดีใจก็ดีใจที่ได้ของหายาก แต่ติดใจตรงที่จะมีเหรียญที่สองให้เห็นอีกหรือเปล่า เหรียญหายากที่สุดที่โพสท์มาให้ดูจริงๆแล้วแทบจะไม่มีใครได้เคยเห็นมาก่อนเลยเพราะไม่เคยเอาไปโชว์ที่ไหนและคิดว่าคงแทบจะไม่มีใครเคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีเหรียญแบบนี้ สภาพของเหรียญเป็นเหรียญที่ใช้งานแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดีระดับ EF ผมเชื่อว่าเหรียญนี้คงมีคนเอามาแลกคืนเหมือนๆกับเหรียญทั่วๆไปที่เขามักเอาเหรียญใช้แล้วมาแลกคืนที่กษาปณ์ เจ้าคนที่มีหน้าที่ในการคัดแยกเหรียญเพื่อนำไปบรรจุถุงใหม่เพื่อจ่ายแลกคงจะพบเข้าจึงเอามาขายต่อให้กับเจ้าเด็กวิ่งเหรียญ และในที่สุดก็เลยตกอยู่กับผม ลักษณะโดยรวมทั่วไปจะเหมือนกับเหรียญห้าบาทครุฑตรงที่เป็นโลหะนิกเกิลเคลือบไส้ทองแดง โดยด้านหน้าจะเหมือนกับเหรียญ 1 บาทพระเศียรเล็กทุกประการผิดกันอยู่ตรงที่ขนาดไม่เท่ากันเพราะเป็นเหรียญ 5 บาทซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่า(คงจะใช้วิธีย่อลายจากต้นแบบเดียวกันในการทำแม่พิมพ์) โดยที่รายละเอียดของรูปภาพในหลวงและการวางตัวหนังสือโดยรอบภาพจะแตกต่างกับบล็อคปกติ ส่วนด้านหลังลวดลายโดยภาพรวมแล้วเหมือนกับด้านหลังของเหรียญ 5 บาทที่เป็นรูปครุฑตรงปกติและมีเลข ๒๕ ขนาดจิ๋วในตัวนกวายุภักษ์ขนาดจิ๋วซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงกษาปณ์ที่บริเวณใต้ตัวหนังสือคำว่า “บาท”ผมเองพยายามหาเหรียญที่สองต่อมาอีกนานก็ยังหาไม่ได้ จนเดี๋ยวนี้เลิกหาแล้วเพราะคิดว่าคงจะหาไม่ได้อีกอย่างแน่นอน คงต้องปล่อยให้เป็นตำนานไปก็แล้วกัน
เหรียญหายากอันดับ 2 – เหรียญกษาปณ์สองสีราคา ๑๐ บาท พ.ศ. ๒๕๓๓
จัดเป็นเหรียญใหม่ที่รู้จำนวนการผลิตที่ชัดเจนคือ 100 เหรียญ นับว่าน้อยมากๆ เคยนั่งคุยกับผู้รู้ท่านเล่าว่าผู้ใหญ่ของกรมธนารักษ์ต้องทำหนังสือขออนุญาตผลิตเหรียญรุ่นนี้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยนั้น ซึ่งผมคิดเอาว่าน่าจะเป็นระเบียบปฏิบัติที่ต้องทำกันอยู่แล้ว เพื่อนำเหรียญไปเผยแพร่ในงานที่เกี่ยวกับเหรียญกษาปณ์ที่ประเทศแคนาดา คงจะมีการแจก แลกเปลี่ยนเหรียญกันในกลุ่มผู้เข้าร่วมงาน และที่เหลือจากการแจกแลกเปลี่ยนคงจะนำกลับมาเมืองไทยซึ่งจะเป็นจำนวนเท่าไหร่คงไม่มีใครตอบได้ ที่แน่ๆก็คงจะหลายสิบเหรียญ ตอนแรกๆประมาณปี พ.ศ. 2534ได้ยินพวกพ่อค้าเหรียญพูดถึงเหรียญนี้ แต่ก็ไม่เคยเห็นของจริงๆ มีแต่ราคาคุยว่าหาไม่ยาก ราคาไม่แพงราวกับว่าจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ เผอิญผมเองก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่นักก็เลยไม่ได้ติดตาม จนกระทั่งได้เจ้าเหรียญนี้มาเมื่อปี พ.ศ.2538 ในราคาที่ต้องอดข้าวอดน้ำไปอีกหลายเดือน จนป่านนี้ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นมีใครเอามาเสนอขายให้เห็นอีกเลย สงสัยว่าคงจะหายากจริงๆ เหรียญนี้โดยภาพรวมของทุกเหรียญน่าจะอยู่ในสภาพดีมากแบบยังไม่ได้ใช้งาน(UNC)เพราะเจตนาผลิตออกมาเพื่อเอาไปประชาสัมพันธ์ ไม่ได้ผลิตเพื่อเอามาใช้จ่ายแลก เชื่อว่าแต่ก่อนเหรียญที่เหลือกลับมาน่าจะตกอยู่กับผู้ใหญ่ในกองกษาปณ์และผู้ใหญ่ในกระทรวงการคลังนั่นแหละ แล้วก็คงถูกพ่อค้าไปตอดออกมาทีละเล็กทีละน้อย (เดาเอานะ) จนหมดไปในที่สุด กลายเป็นของหายากที่อยู่ในมือของนักสะสมที่มีเงินเหลือเฟือ (ไม่ใช่ตัวผมอย่างแน่นอน) และในที่สุดก็คงต้องกลายเป็นเหรียญหายากมากๆของวงการไปเสียแล้ว ที่จะพบเห็นกันก็มักจะเป็นเหรียญปี 2537 นำมาตัดหาง ต้องสังเกตและเปรียบเทียบดูก็พอจะแยกแยะได้ครับ
เหรียญหายากอันดับ 3 – เหรียญกษาปณ์อลูมิเนียมบรอนซ์ราคา ๒๕ สต.พ.ศ.๒๕๐๐ ด้านหลังตัวหนังสือบาง
เป็นเหรียญที่จัดได้ว่าหายากมากถึงยากมากที่สุดอีกเหรียญหนึ่งทีเดียว เดินหาจนรองเท้าสึกก็ยังหาไม่ได้ สภาพของเหรียญไม่ต้องพูดถึงความสวยหรอกครับ เอาแค่หาให้ได้ก็พอแล้ว และจริงๆจะหาสภาพสวยก็ไม่มี เท่าที่เคยพบมามีแต่เหรียญใช้งานแล้วทั้งนั้น และอยู่ในสภาพแค่พอใช้(F) จำนวนที่พบเห็นน่าจะไม่เกินหลักสิบ เพราะกาลเวลาผ่านมาตั้ง 50 กว่าปีแล้ว ด้านหน้าของเหรียญนี้ก็เหมือนกับเหรียญทองเหลือง 25 สต.บล็อคปกติทั่วไป แต่ด้านหลังของบล็อคหายากลวดลายของตราแผ่นดินจะมีขนาดเล็กกว่าบล็อคแบบปกติเล็กน้อย และขนาดของตัวหนังสือจะมีความบางกว่าบล็อคปกติ เหรียญที่นำมาโพสท์จัดอยู่ในระดับแค่พอใช้ (F) และหาได้เพียงเหรียญเดียวหมดปัญญาหาเหรียญที่สองถ้าใครมีผมสนใจนะครับบอกมาได้เลย เหรียญที่มีอยู่กว่าจะได้มาก็ต้องลุ้นอยู่นานเพราะเจ้าของไม่ใช่พ่อค้าเลยไม่กล้าเสนอราคาและเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนขืนสุ่มสี่สุ่มห้าอาจเสียรังวัดมองหน้ากันไม่ติด เลยต้องเอาเหรียญอื่นๆไปแลกมาครับ
เหรียญหายากอันดับ 4 – เหรียญกษาปณ์อลูมิเนียมบรอนซ์ราคา ๑๐ สต. พ.ศ.๒๕๐๐ ด้านหลังสิบสตางค์หางยาว
เหรียญนี้นับว่าเป็นตัวติดที่ขึ้นชื่อว่าหายาก และหาของสวยๆได้ยากมาก เรียกว่าต้องหากันจนรองเท้าสึกกว่าจะได้ แต่ถ้าบล็อคเดียวกันนี้และเป็นเนื้อทองแดงจะหาได้ง่ายกว่า อายุของเหรียญก็กว่า 50 ปีแล้วจะไปหาของได้ที่ไหนเท่าที่พอจะเจอะเจอก็มักจะสึกหรือลื่นจนไม่อยากเอาไปเข้าเซทเข้าพวกเพราะความสวยไปด้วยกันไม่ค่อยได้เหลือเพียงศักดิ์ศรีแค่เป็นตัวติดที่หายากเท่านั้น โดยที่ด้านหน้าของเหรียญนี้จะเป็นบล็อคเดียวกันกับบล็อกปกติทั่วไป แต่ด้านหลังจะไม่เหมือนกัน โดยมักจะดูความต่างตรงเลข ๑๐ ซึ่งหางของเลข ๑ ของบล็อคที่หายากจะยาวลงมามากกว่าบล็อคปกติอย่างเห็นได้ชัด เหรียญตัวนี้จัดเป็นของหายากและมีราคาแพงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลานี้น่าจะหาแทบไม่ได้ครับ เหรียญตัวที่โพสท์มาลงก็ได้มาหลายปีแล้วจนจำ พ.ศ.ไม่ได้ ความสวยเกือบอยู่ในระดับ UNC เหรียญบล็อคนี้ถ้าเป็นทองเหลืองด้านหลังเมื่อตีแล้วมักจะขึ้นไม่ค่อยเต็ม ลวดลายขึ้นไม่ค่อยชัดบริเวณกลางเหรียญ ผิดกับเหรียญที่เป็นเนื้อทองแดงซึ่งด้านหลังจะมีลวดลายที่คมชัดกว่าครับ
เหรียญหายากอันดับ 5 – เหรียญกษาปณ์นิกเกิลราคา ๑ บาท พ.ศ.๒๕๒๕ ด้านหน้าพระเศียรเล็ก
จริงๆแล้วเหรียญบล็อคนี้น่าจะจัดให้เป็นเหรียญตัวอย่างที่ไม่ได้นำออกใช้แต่เผอิญว่าตอนผลิตเหรียญเข้าจริงๆคนตีเหรียญคงจะใส่แม่พิมพ์ด้านหน้าผิดจึงทำให้เกิดบล็อคใหม่ขึ้นมาที่เรียกกันแบบง่ายๆว่า บล็อคพระเศียรเล็กเพราะลักษณะของพระเศียรจะมีขนาดที่ผอมกว่าบล็อคปกติอยู่เล็กน้อย ส่วนด้านหลังก็เป็นบล็อคเดียวกันกับแบบปกติ(มีเลข ๒๕ อยู่ในตัวนกวายุภักษ์)เหรียญบล็อคนี้ปะปนมากับเหรียญบล็อคปกติซึ่งอยู่ในถุงตอนจ่ายแลก เมื่อบรรดานักเก็บเหรียญและพ่อค้าสังเกตเห็นจึงแห่กันไปแลกเหรียญกันมาเป็นถุงๆ เป็นกระสอบๆแล้วทำการคัดเลือกกันเป็นการใหญ่ ส่วนใหญ่ก็ได้กันครับแต่ก็ไม่มากนัก ฉะนั้นเหรียญบล็อคนี้ส่วนใหญ่จึงยังอยู่ในสภาพดีระดับ UNC และตอนแรกๆก็จะขายกันแพงครับ เหรียญละไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท แต่ตอนนี้ราคาน่าจะตกลงมาเยอะแต่ก็ยังจัดว่าเป็นเหรียญหายากครับ ถ้าสภาพดีราคาไม่แพงอย่าปล่อยให้หลุดมือไปก็แล้วกัน อีกทั้งอายุของเหรียญก็ตั้ง 27 ปีเข้าไปแล้วครับ
เหรียญหายากอันดับ 6 – เหรียญกษาปณ์อลูมิเนียมบรอนซ์ราคา ๕๐ สต. พ.ศ.๒๔๙๓
จัดเป็นเหรียญหายากครับ โดยปกติเหรียญรุ่นนี้ด้านหน้าจะมีเพียงบล็อคเดียว ส่วนด้านหลังมีสองบล็อค บล็อคที่หาง่ายและพบได้ทั่วไปจะเป็นบล็อคที่ตัวหนังสือมีขนาดที่บางกว่าโดยจะสังเกตได้ชัดที่ตัวเลข ๕๐ ซึ่งจะต่างกับบล็อคที่หายากซึ่งจะมีตัวเลขที่หนากว่า ส่วนรายละเอียดอื่นๆของบล็อคที่หายากที่บริเวณตราแผ่นดินก็จะคล้ายกันต้องสังเกตดีๆจึงจะเห็นความแตกต่างผมเองเชื่อว่าบล็อคปกติเป็นบล็อคที่สวยกว่าและเป็นบล็อคหลักของเหรียญรุ่นนี้ส่วนบล็อคตัวหนังสือหนาคงไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้ผลิตแต่อาจจะใส่แม่พิมพ์โดยไม่ได้สังเกตแล้วตีออกมาก็เป็นไปได้ครับเหรียญรุ่นนี้หาสภาพดีๆได้ค่อนข้างยากส่วนใหญ่เป็นเหรียญใช้งานแล้วเกือบทั้งนั้น ถึงเวลานี้ผ่านมาตั้ง 60 กว่าปีแล้วจะเหลือให้เห็นสักกี่เหรียญครับ
เหรียญหายากอันดับ 7 – เหรียญกษาปณ์อลูมิเนียมบรอนซ์ราคา ๕๐ สต. พ.ศ.๒๕๓๐
อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ในตอนต้นๆว่าเหรียญใน พ.ศ. นี้มี “ตัวติด” เยอะ อย่างเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ผลิตออกมาเพียง 1,000 เหรียญ ซึ่งนับว่าน้อยมาก จะด้วยสาเหตุใดก็ไม่ทราบอาจเป็นเพราะเป็นปีแรกที่มีการเปลี่ยนแบบและขนาดของเหรียญ และเหรียญปีก่อนๆยังมีอยู่เป็นจำนวนมากจึงผลิตออกมาเพียงให้ครบ พ.ศ. ก็เป็นไปได้หรือเป็นการลองตีออกมาดู หรือเป็นเพราะขาดแคลนเหรียญตัวเปล่าเลยตีได้เท่านี้ก็สุดจะเดา จึงนับได้ว่าเป็นตัวติดที่หาได้ลำบากถ้าจะสะสมให้ครบชุด ครบ พ.ศ. ของเหรียญกษาปณ์ประเภทหมุนเวียนครับ
เหรียญหายากอันดับ8 – เหรียญกษาปณ์นิกเกิลราคา ๑ บาท พ.ศ.๒๕๒๙ ด้านหลังช่อฟ้าหางยาว
เป็นเหรียญบาทปีแรกที่มีขนาดเล็ก มีจำนวนผลิตโดยรวมไม่มากแค่ 4,200,000 เหรียญซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเหรียญแบบเดียวกันในปีอื่นๆ ทีแรกๆก็ไม่มีใครสังเกตหรอกครับว่าบล็อกด้านหลังมีความต่างกันตรงช่อฟ้าบนหลังคาโบสถ์วัดพระแก้วบริเวณด้านขวาของเหรียญซึ่งมีช่อฟ้าที่ยาวและสั้นต่างกัน จำนวนเกือบทั้งหมดของเหรียญรุ่นนี้เป็นช่อฟ้าแบบหางสั้น ที่เป็นแบบหางยาวมีน้อยกว่ามากๆๆๆโดยผสมปนเปกันอยู่ในถุงที่ให้จ่ายแลกและเหรียญพบและเก็บหากันก็มักจะเป็นเหรียญที่ใช้แล้วหาประเภทใหม่เอี่ยม (UNC)ได้ยาก จัดเป็นเหรียญหายากครับ
เหรียญหายากอันดับ 9 – เหรียญกษาปณ์อลูมิเนียมราคา ๑๐ สต. พ.ศ.๒๕๓๐
ถึงแม้ว่าเหรียญนี้ถูกนำไปจัดเป็นชุดแผงเหรียญออกจำหน่ายแต่ก็ยังคงพอมีเหลือหลุดลอดออกมาให้ได้เก็บเข้าชุดแบบปกติได้ แต่ก็หายากครับ เพราะผลิตเพียง 5,000 เหรียญเท่านั้น ในปี พ.ศ.๒๕๓๐ นี้ถือว่ามีเหรียญตัวติดเยอะที่สุดเลย คงเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเหรียญใหม่ การเริ่มต้นใหม่อาจยังไม่เข้าที่ จำนวนการผลิตอาจจะเหมือนการทดลองผลิตจึงมีจำนวนไม่มากครับ
เหรียญหายากอันดับ 10.1 เหรียญกษาปณ์อลูมิเนียมราคา ๕ สต. พ.ศ.๒๕๓๐
เป็นเหรียญที่ผลิตออกมาเพื่อใช้ในทางบัญชีเท่านั้นโอกาสที่จะเอาใช้หมุนเวียนจริงๆในท้องตลาดคงไม่มีแต่ก็จัดเป็นเหรียญหมุนเวียนด้วยและปีนี้เป็นปีแรกที่มีการผลิตเหรียญประเภทนี้ออกมาอีกครั้งหลังจากขาดหายไปตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยเหรียญราคานี้ผลิตออกมา 10,000 เหรียญเป็นเนื้ออลูมิเนียม ขอบเหรียญเรียบ นักสะสมก็พยายามหากันเพื่อเอามาเข้าชุดเหรียญในปี พ.ศ.๒๕๓๐ ครับ